ไม่จำเป็น และไม่สามารถเพราะ SVHC-C บางตัวไม่สามารถคงรูปอยู่ได้ในบรรยากาศปกติ (หมายความว่าไม่มีโอกาสที่จะมีสารนี้ปนเปื้อนในสินค้า)
REACH ไม่ได้กำหนดให้ต้องยืนยัน "การปลอด SVHC-C" แต่ละรายการ ทั้งยังไม่ได้ห้ามใช้สารเหล่านี้ เพียงแต่กำหนดให้ผู้ขาย ต้องแจ้งผู้ซื้อให้รู้ว่า สินค้าใด ชิ้นส่วนไหน มี SVHC-C รายการใด เกิน 0.1% โดยน้ำหนักผลิตภัณฑ์เริ่มแรก
บัญชี SVHC-C เป็นบัญชีที่ไม่จำเพาะเจาะจงอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง SVHC-C บางรายการเช่นน้ำหอม อาจมีใช้ในบางผลิตภัณฑ์เฉพาะด้านเช่นแผ่นกระดาษดับกลิ่นในรถยนต์ ผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องก็คงต้องยืนยันส่วนผสม หากเกิน 0.1% ก็ต้องแจ้งลูกค้าพร้อมให้คำแนะนำการใช้สินค้าอย่างปลอดภัย ส่วนผู้ผลิตอื่น เช่นผู้ผลิตน๊อต ที่ไม่มีเหตุผลให้ต้องใช้น้ำหอม และก็คงไม่สามารถใส่น้ำหอมในน๊อตให้คงรูปอยู่จนสินค้าส่งไปจนถึงมือลูกค้าปลายทางได้ ก็ไม่ต้องทำอะไร หรือหากลูกค้าต้องการ (เพื่อความสบายใจของลูกค้า) บริษัทก็สามารถออกเอกสารรับรองตนเองได้เลย
ทำนองเดียวกัน SVHC-C บางรายการ เป็นสารที่ใช้ในกระบวนการผลิต ที่หลังเกิดการแปรสภาพแล้ว จะไม่เหลือสารเดิมติดไปกับตัวผลิตภัณฑ์ (เช่น น้ำยาชุบผิวโลหะ สิ่งที่ไปกับสินค้าคือชั้นโลหะไม่ใช่ตัวน้ำยา หรือกาวอีพอกซี่ที่มีส่วนประกอบเรซิ่นและ Harderner แต่ส่วนที่จะติดไปกับสินค้าไม่ใช่ทั้ง 2 รายการ แต่ละเป็นสารเคมีชนิดใหม่ (อีพอกซี่ที่ Cure แล้ว)) ตรงนี้ ลูกค้าที่สงสัยว่าอาจมีการปนเปื้อน (ซึ่งไม่น่าจะเป็นเหตุการณ์ปกติ) ก็อาจร้องขอให้มีการทดสอบ แต่ทางที่ดีกว่าน่าจะเป็นการควบคุมการผลิตให้ดี อย่าให้เหลือน้ำยาหรือเรซินที่ Cure ไม่หมดติดไปกับตัวสินค้า เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพของสินค้า เห็นผลได้ทันตา ไม่ต้องรอให้ Lab พิสูจน์
มี 76 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์